Press releaseข่าวประชาสัมพันธ์

GISTDA จับมือ วช. และจังหวัดเชียงใหม่ ต่อยอด COVID-19 iMap Platform

0 0
Read Time:4 Minute, 49 Second

GISTDA จับมือ วช. และจังหวัดเชียงใหม่ ต่อยอด COVID-19 iMap Platform สู่การพัฒนาระบบการแสดงผลที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจ

 

                           นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเปิดงาน

 

                               นางกานดาศรี ลิมปาคม รองผู้อำนวยการ สทอภ. กล่าวรายงาน

 

                                                                                   ถ่ายภาพร่วมกัน

22 พฤศจิกายน 2564 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมมือกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดำเนินงานวิจัยโครงการพัฒนาระบบบริหารสถานการณ์ รองรับการแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อพัฒนาเป็นเครื่องมือสำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจ ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่

นางกานดาศรี ลิมปาคม รองผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า โครงการพัฒนาระบบบริหารสถานการณ์ รองรับการแพร่ระบาดโควิด-19 นี้ เป็นโครงการที่ใช้ภูมิสารสนเทศมาช่วยวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดจนนำไปสู่การควบคุมพื้นที่ได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ พร้อมขยายระบบให้รองรับผู้ใช้งานได้เพิ่มขึ้น รวมถึงพัฒนาเพื่อให้รองรับการบริหารจัดการในระดับพื้นที่/จังหวัด ให้เป็นระบบการแสดงผล (Dashboard) เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการกำหนดมาตรการต่างๆ ในระดับพื้นที่ให้กับ 5 จังหวัดต้นแบบ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย ตาก ชลบุรี และภูเก็ต ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมเรื่องการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประเพณีอันเก่าแก่ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงนิเวศน์จำนวนมาก จึงถือเป็นจังหวัดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 จึงได้รับผลกระทบทั้งในด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดย GISTDA ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบบูรณาการข้อมูลที่เรียกว่า “COVID-19 iMap Platform” ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือให้กับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัด (ศปกจ.) โดยเชื่อมโยงข้อมูลด้านภูมิสารสนเทศที่มีอยู่จำนวนมาก เช่น ข้อมูลที่ตั้งของสถานที่ ข้อมูลด้านสาธารณสุข ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ และด้านประชากร จากหน่วยงานทั้งหมด 9 กระทรวง รวม 17 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กองบัญชาการกองทัพไทย และสภากาชาดไทย พัฒนาเป็นระบบศูนย์กลางข้อมูล (Data Center) เพื่อนำไปใช้ในการติดตาม เฝ้าระวัง วิเคราะห์ วางแผน สนับสนุนการทำงานประกอบการตัดสินใจในการบริหารจัดการทรัพยากรด้านสาธารณสุข ฟื้นฟูสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพื่อการบริหารจัดการสถานการณ์อย่างทันท่วงที

นางกานดาศรี กล่าวต่อว่า COVID-19 iMap Platform เป็นระบบที่ใช้บริหารสถานการณ์ในระดับประเทศ แต่เนื่องจากบริบทที่แตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัดตามภูมิภาค ทำให้ต้องจำเป็นที่ต้องส่งเสริมและลงไปแก้ไขปัญหาต่างๆเฉพาะพื้นที่ ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2564 GISTDA จึงได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ดำเนินงานวิจัยโครงการพัฒนาระบบบริหารสถานการณ์ รองรับการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งนอกจากการขยายระบบเพื่อให้สามารถรองรับผู้ใช้งานได้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้รองรับการบริหารจัดการในระดับพื้นที่/จังหวัด โดยขยายขอบข่ายการเชื่อมโยงข้อมูลให้ครอบคลุม นำข้อมูลเหล่านี้นำมาวิเคราะห์ร่วมกันและแสดงผลในรูปแบบของแผนที่ดิจิทัลและระบบการแสดงผล (เป็นการนำข้อมูลมาสรุปให้เห็นเป็นภาพในหน้าเดียว) สำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลง หรือมาตรการต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการกำหนดมาตรการต่างๆ ในระดับพื้นที่ของจังหวัดต้นแบบ เมื่อมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พื้นที่ศึกษาที่เป็นตัวแทนของบริบทต่างๆในครั้งนี้จะดำเนินการ วิเคราะห์เชิงลึกในด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ ในมิติของสาธารณสุข ทีมผู้วิจัยได้พัฒนาดัชนีชี้วัดความปลอดภัยต่อการติดเชื้อโควิด-19 หรือ “COVID-19 Safety Index” ขึ้น โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ ปัจจัยต่างๆในหลากหลายมิติ ทั้งด้านสถานการณ์การติดเชื้อ ด้านศักยภาพ/ความเพียงพอของระบบสาธารณสุข ด้านความหนาแน่นของประชากรและพื้นที่เสี่ยง และการจัดสรรวัคซีน ซึ่งมีส่วนแสดงผล 3 ส่วน คือ 1.) แสดงผลการวิเคราะห์ความปลอดภัยของพื้นที่ต่อการติดเชื้อ โควิด-19 เพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างตรงจุด 2.) แสดงผลการคาดการณ์รายได้จากภาคการท่องเที่ยว เมื่อจังหวัดเริ่มมีการฟื้นตัว และ 3.) แสดงผลภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ในระดับอำเภอ และการพัฒนา Dashboard COVID-19 iMAP Platform มาใช้ในพื้นที่จังหวัดตาก จะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดมีระบบเพื่อใช้บริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด – 19 และการท่องเที่ยวในระดับพื้นที่ มีข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้อง แม่นยำ สามารถวางแผนและกำหนดมาตรการสำหรับเตรียมความพร้อมเพื่อการบริหารจัดการเชิงพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วนเพื่อสังเคราะห์และตรวจสอบความถูกต้องก่อนการเผยแพร่สู่ภาคประชาชนผ่านระบบเดียวกัน” นางกานดาศรี กล่าว

 

เสวนาหัวข้อ “COVID-19 iMAP Platform ทางเลือกเพื่อการตัดสินใจ”
ผู้เข้าร่วมเสวนา
1. นายกวานเปา วัฒนาฟุ้งเจริญ
ตำแหน่ง เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ
ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่
2. นายแพทย์ธนชล วงศ์หิรัฐเดชา
ตำแหน่ง นายแพทย์ชำนาญการเวชศาสตร์ป้องกัน ด้านระบาดวิทยา
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
3. ดร.กรรณิการ์ อินต๊ะวงศ์
ตำแหน่ง อาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์
คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4. นางกานดาศรี ลิมปาคม
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)

ดำเนินรายการโดย นางสาวปาจรีย์ สวนศิลป์พงศ์

 

นายธานี คามเขต นักพัฒนานวัตกรรมชำนาญการ สทอภ. สาธิตการใช้งาน COVID-19 iMAP Platform

 

ภาพบรรยากาศภายในงาน

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %