มาดูกันว่า Adobe Commerce สามารถช่วยธุรกิจค้าปลีกได้อย่างไร
0
0
ในยุคปลาเร็วกินปลาช้านับเป็นโอกาสทองของธุรกิจขนาดเล็ก-กลางที่มีเทคโนโลยีข้ามาช่วยเปิดกว้างโอกาสทางธุรกิจ ลืมข้อจำกัดแบบในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจค้าปลีกที่เพียงเริ่มต้นให้เร็วเพื่อคว้าฐานลูกค้าในโลกออนไลน์ให้ได้มากที่สุดก็สามารถโดดเด่นเหนือคู่แข่งได้ หนึ่งในรากฐานแรกที่ต้องคำนึงคือการเปิดเว็บไซต์ร้านค้าให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้ Adobe Commerce แพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซผู้ให้บริการซอฟแวร์พร้อมมอบองค์ประกอบสำคัญที่ธุรกิจระดับเอ็นเตอร์ไพรส์จำเป็นต้องมีในการบริหารจัดการร้านค้า adobe commerce จะช่วยธุรกิจค้าปลีกได้อย่างไรบทความนี้มีคำตอบ
การรวมลูกค้า B2C และ B2B ในแพลทฟอร์มเดียวกัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าโมเดลการบริหารจัดการธุรกิจแบบ B2C และ B2B มีความแตกต่างกัน การนำมาบริหารร่วมกันจึงกลายเป็นความยุ่งยากซับซ้อนที่ธุรกิจส่วนใหญ่ที่ต้องรองรับผู้ใช้งานทั้ง 2 แบบกำลังประสบปัญหา Adobe Commerce เข้าใจถึงปัญหานี้เป็นอย่างดี และได้พยายามพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้ามาช่วยเหลือเจ้าของกิจการโดยเฉพาะ ทำให้ธุรกิจสามารถตอบสนองลูกค้า 2 กลุ่มได้อย่างไร้รอยต่อบนแพลทฟอร์มเดียวกัน
ระบบรวมศูนย์กลางการจัดการหลายร้านค้า
เจ้าของกิจการจำนวนมากที่มีธุรกิจอยู่ในมือมากกว่าหลายแบรนด์ด้วยกัน แพลทฟอร์ม Adobe Commerce ช่วยให้เจ้าของร้านค้าสามารถบริหารจัดการข้อมูลและการใช้งานต่างๆของหลายแบรนด์ เช่น รายการสินค้า ข้อมูลราคาสินค้า หน้าการใช้งานของแต่ละร้านค้า ช่องทางการขาย การโปรโมทและข้อเสนอการขายต่างๆ ได้ในที่เดียวผ่านมุมมองของภาพใหญ่
พลิกโฉมประสบการณ์การซื้อชั้นยอด
ผู้ซื้อสามารถเห็นจำนวนสินค้าคงเหลือได้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อโดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาสอบถามพนักงาน ระบบบริการตัวเองตั้งแต่การวางออเดอร์ไปจนถึงการเชคเอ้าท์ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายให้เร็วขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นมีการรองรับระบบ subscription ที่เป็นโมเดลธุรกิจที่กำลังมาแรงในยุคนี้ ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าซ้ำได้ เก็บทุกโอกาสในการสร้างรายได้ให้ร้านค้า
การสร้างประสบการณ์การซื้อของลูกค้า B2B แบบเจาะจง
ไม่ใช่เพียงกลุ่มลูกค้า B2C ที่สามารถมีประสบการณ์แบบเฉพาะตัวได้ Adobe Commerce สนับสนุนให้ธุรกิจวางระบบดูแลลูกค้า B2B อย่างครอบคลุมเช่นกัน การสร้างบัญชีบริษัทที่อนุญาตให้มีผู้ซื้อหลายคนสามารถอนุมัติคำสั่งซื้ออัตโนมัติผ่านการตั้งค่าจากเจ้าของกิจการได้ตามต้องการ
มาถึงตรงนี้กิจการค้าปลีกอาจมองเห็นโอกาสในอนาคตของตัวเองมากขึ้นในการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยปรับปรุงธุรกิจ มอบประสบการณ์ซื้อสินค้าและบริการของลูกค้าให้น่าพึงพอใจที่สุด เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำโดยไม่ต้องทุ่มทุนไปกับค่าใช้จ่ายการตลาดเพียงด้านเดียว
